อุตสาหกรรมแบบไหนเหมาะกับการชุบ Hot Dip Galvanized

ชุบ Hot Dip Galvanized ป้องกันการเกิดสนิม เสริมความแข็งแรง ทนทาน

ชุบ Hot Dip Galvanized

วิธีการป้องกันเหล็กให้มีประสิทธิภาพที่ดีและไม่ทำให้เกิดสนิม สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น ชุบน้ำมันหรือชุบซิงค์ ที่คล้ายกับการชุบ Hot Dip Galvanized แตกต่างกันตรงที่การชุบซิงค์จะใช้ไฟฟ้าเป็นตัวเหนี่ยวนำในการเคลือบสังกะสีบนเหล็ก อย่างไรก็ตาม การชุบ Hot Dip Galvanized ยังเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะสามารถป้องกันการก่อให้เกิดสนิมและการกัดกร่อนของเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีอื่น ๆ

ซึ่งวิธีการ ชุบ Hot Dip Galvanized ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในปี ค.ศ.1742 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า P.J. Malouin โดยขั้นตอนการชุบ Hot Dip Galvanized หลัก ๆ คือการล้างผิวเหล็กให้มีความสะอาดมาก ๆ และต้องตรวจสอบผิวเหล็กให้ดีก่อนนำไปชุบ ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ไม่ต่างจากการนำเหล็กไปชุบ พอตรวจสอบผิวเหล็กจนแน่ใจแล้ว จากนั้นนำเหล็กมาทำการเชื่อมต่อหรือทำการตัดตามแบบที่ต้องการ แล้วนำเหล็กไปจุ่มในบ่อสังกะสีเหลวที่มีอุณหภูมิสูง จะทำให้สังกะสีทำปฏิกิริยากับเหล็กจนเกิดเป็นชั้นโลหะผสม หลังจากนั้นนำเหล็กที่ทำการชุบ Hot Dip Galvanized แล้ว ไปพักไว้ให้เย็นลง สังกะสีจะกลายเป็นชั้นโลหะผสมที่มีความหนา 65 - 300 ไมครอน เคลือบอยู่บนตัวเหล็ก แม้ขั้นตอนหลัก ๆ ดูเหมือนจะไม่ยาก แต่รายละเอียดของแต่ละขั้นตอน ต้องใช้ความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นอุตสาหกรรมหรืองานที่ต้องการชุบ Hot Dip Galvanized จึงจำเป็นต้องหาโรงงานที่รับที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน

อุตสาหกรรมหรืองานที่ต้องชุบ Hot Dip Galvanized

การชุบ Hot Dip Galvanized สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับอุตสาหกรรมและงานหลายประเภท ตัวอย่างเช่น งานภายนอกอาคาร หรืองานที่ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศโดยตรง เช่น

  • การก่อสร้าง : มักใช้สำหรับโครงสร้างอาคารต่าง ๆ เช่น โครงเหล็ก หลังคา ราวบันได และรั้ว เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมยานยนต์ : มักใช้สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ต่าง ๆ เช่น เฟรม ล้อ และตัวถังรถยนต์ เป็นต้น
  • การเกษตร : มักใช้สำหรับอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ เช่น เครื่องจักรกลการเกษตร อุปกรณ์เกี่ยวข้าว และอุปกรณ์เก็บเกี่ยวผลไม้ เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมพลังงาน : มักใช้สำหรับโครงสร้างพลังงานต่างๆ เช่น เสาไฟฟ้า หม้อแปลง และสายไฟ เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมอื่น ๆ : เหล็กชุบ Hot Dip Galvanized ยังสามารถใช้สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอุตสาหกรรมกระดาษ และอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น

ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากสภาวะของอากาศเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลให้เหล็กเกิดสนิมได้ ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ ในส่วนของงานภายนอกอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนัก เช่น การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ ก็ต้องมีการชุบ Hot Dip Galvanized เนื่องจากตัวเหล็กไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากนัก อีกทั้งตัวเหล็กยังไม่ทนต่อความดันน้ำ ความชื้น การสึกหรอและแตกหัก จึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพโดยการชุบ Hot Dip Galvanized

การชุบ Hot Dip Galvanized มีข้อดีอย่างไร

  1. สามารถป้องกันการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการนำเหล็กไปทาด้วยน้ำมันหรือสีทาบ้าน ตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไป อย่างเช่น สังกะสีมุงหลังคา หากทาเหล็กด้วยสีเฉพาะสำหรับทา หรือทาด้วยน้ำมัน จะไม่สามารถทาเหล็กได้ทั่วทุกซอกทุกมุม ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพของเหล็กอาจลดลงได้ แต่ถ้านำสังกะสีไป ชุบ Hot Dip Galvanized จะทำให้สามารถป้องกันสนิมได้ทั่วทุกซอกทุกมุม เพราะใช้วิธีการจุ่มในบ่อสังกะสีไม่ใช่การทา ดังนั้นท่านสามารถมั่นใจเรื่องประสิทธิภาพของเหล็กที่ชุบ Hot Dip Galvanized ได้มากกว่าการทาน้ำมันหรือสีทาบ้าน

  2. การชุบ Hot Dip Galvanized ส่งผลดีทำให้ตัวเหล็กทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีบางชนิด ทนต่อสภาวะดินฟ้าอากาศ การถูกฝังในดิน หรือแม้แต่ในน้ำทะเล

  3. เหล็กที่ผ่านการชุบกัลวาไนซ์ จะมีอายุการใช้งานยาวขึ้น โดยจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 50 ปี

  4. เหล็กที่ผ่านการชุบ Hot Dip Galvanized จะทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักและความดันได้ดีมากยิ่งขึ้น

  5. ประสิทธิภาพของเหล็ก หลังชุบกัลวาไนซ์ จะมีความคุ้มค่า คุ้มราคา หากเทียบกับอายุการใช้งาน

  6. ช่วยยกระดับในเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และยังสามารถลดความเสี่ยงในการผุ หรือพังได้อีกด้วย

  7. เหล็กกล้าที่ชุบ Hot Dip Galvanized จะมีคุณสมบัติความแข็งแรงและความทนทานเทียบเท่ากับเหล็กรูปพรรณ

เหล็กเป็นสิ่งที่ต้องใช้สำหรับอุตสาหกรรมและงานแทบทุกชนิดที่เป็นงานภายนอกอาคาร ดังนั้นการหาวิธีป้องกันสนิมหรือการกัดกร่อน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญมาก การนำเหล็กกล้าไปชุบ Hot Dip Galvanized จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน แต่ขั้นตอนการชุบกัลวาไนซ์มีความซับซ้อนและต้องอาศัยประสบการณ์ ดังนั้นหากเลือกโรงงานชุบกัลวาไนซ์ ที่ดี ก็จะทำให้ได้เหล็กที่มีคุณภาพ โดยที่แสงเจริญ กัลวาไนซ์กรุ๊ป มีผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้นำด้านการชุบสังกะสีมานานกว่า 50 ปี รวมถึงมีบ่อชุบกัลวาไนซ์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และมีหลายขนาด โดยบ่อชุบ Hot Dip Galvanized ทำให้สามารถชุบเหล็กได้หลายขนาด เหมาะกับทุกงานและทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับภายนอกอาคารแน่นอน


สนใจบริการชุบ Hot Dip Galvanized ติดต่อ 

โทร : 02-599-4115, 081-839-3049
LINE ID : @SCGgalvanize
Facebook : @Sangchareongroup