โรงงานชุบกัลวาไนซ์ แสงเจริญ กัลวาไนซ์กรุ๊ปมีประวัติความเป็นมามากกว่า 50 ปี
โรงงานชุบกัลวาไนซ์ ที่ไม่หยุดยั้ง มุ่งเน้นการพัฒนากิจการสู่วงการชุบซิงค์กัลวาไนซ์และขยายการผลิตทุกรูป
โรงงานชุบกัลวาไนซ์ แห่งแรกในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยเลือกใช้ระบบเตาชุบแบบปิดซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของกระบวนการ ชุบกัลวาไนซ์
และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสงเจริญเริ่มต้นด้วยการเปิดโรงงานชุบกัลวาไนซ์ มานานกว่า 50 ปี ก่อนจะพัฒนาและขยายกิจการอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น
“แสงเจริญ กัลวาไนซ์กรุ๊ป” ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในอุตสาหกรรมและงานโครงสร้าง ด้วยบริการที่รวดเร็วและการดำเนินงานอย่างมืออาชีพในทุกขั้นตอน
โรงงานชุบโลหะแสงเจริญ เป็นผู้ให้บริการ รับชุบกัลวาไนซ์ ที่มีขนาดบ่อชุบยาวที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับงานขนาดใหญ่และงานโครงสร้างที่ต้องการความทนทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมให้บริการเคลือบผิวโลหะหลากหลายรูปแบบ ทั้ง ชุบ Hot-Dip Galvanized, ชุบสังกะสี รวมถึงบริการขึ้นรูปเหล็ก แฟบเหล็ก และการผลิต–จำหน่ายเหล็กรูปพรรณ
ที่มาพร้อมบริการ ชุบกัลวาไนซ์ ครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละโครงการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
กว่าจะเป็นแสงเจริญกรุ๊ป
เมื่อ 50 ปีก่อน แสงเจริญเริ่มต้นกิจการด้วยการเปิดโรงชุบโครเมียมครั้งแรกที่ตลาดวัดดวงแข โดยนาย ยงศิลป์ สุจิตรานุรักษ์ ในชื่อ โรงชุบ คู เกี่ยง ซิง เนื่องจากงานจำนวนมากที่เข้ามา ทำให้ต้องมีการขยายกิจการ คุณยงศิลป์จึงตัดสินใจย้ายจากตลาดวัดดวงแขมาอยู่ที่ซอย เสนานิคม 1 (พหลโยธิน 32 ปัจจุบัน) ด้วยพื้นที่ 1 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2500 (A.D 1957) โดยเปลี่ยนเป็นชื่อโรงชุบ แสงเจริญ และจดทะเบียนในรูปบริษัทเมื่อปี 2535 ในชื่อ บริษัท แสงเจริญเพลทติ้งเซอร์วิส จำกัด


ไม่หยุดยั้ง มุ่งเน้นการพัฒนากิจการสู่วงการชุบกัลวาไนซ์
ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แสงเจริญได้ขยายกำลังการผลิตไปยังภาคตะวันออก เพื่อรองรับลูกค้าและชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงเกิด บริษัท แสงเจริญอีสเทิร์น กัลวาไนซ์ จำกัด อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีขนาดบ่อชุบกัลวาไนซ์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย (14 m x 1.8 m x 2.5 m) บรรจุสังกะสีได้ 450 ตัน เป็นเตาระบบปิด ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยจากอังกฤษ มาตรฐานเดียวกับยุโรป มีจุดเด่นด้วยความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม
ขยายกิจการสู่วงการชุบกัลวาไนซ์
ด้วยการขยายตัวของวงการก่อสร้างในประเทศไทยช่วงระหว่างปี 2532—2537 ซึ่งธุรกิจการชุบกัลวาไนซ์ ที่มีคุณสมบัติการป้องกันสนิมของเหล็กโครงสร้างที่ในที่กลางแจ้งได้ยาวนานที่สุดในระบบการชุบทั้งหมด แสงเจริญฮอทดิพ กัลวาไนซ์ และจ้างวิศวกรอังกฤษช่วยในเรื่องการออกแบบระบบชุบกัลวาไนซ์เพื่อให้ได้การผลิตที่ได้คุณภาพเทียบเท่ามาตราฐานยุโรป



















