ไขข้อข้องใจ เหล็กชุบกัลวาไนซ์ กับ เหล็กธรรมดาต่างกันอย่างไร?

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ กับ เหล็กธรรมดา เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า

เหล็กชุบกัลวาไนซ์

เมื่อพูดถึงงานก่อสร้างแล้ว สิ่งที่สำคัญและจะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของโครงสร้าง เพราะงานก่อสร้างใดๆ ก็ตาม ย่อมจะต้องเริ่มด้วยการมีโครงสร้างที่ดีก่อน และโครงสร้างที่ดีนั้นก็จะต้องอาศัยวัสดุที่คงทน ได้มาตรฐานและเหมาะกับงานก่อสร้างที่ต้องการ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีความนิยมใช้เหล็กเพื่อเป็นโครงสร้างต่างๆ อย่างแพร่หลาย แต่เหล็กโครงสร้างก็ไม่ได้มีให้เลือกใช้เพียงเหล็กธรรมดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เป็นสิ่งที่คนทำงานช่างรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเราไม่ใช่ช่างหรืออยู่ในวงการก่อสร้าง เราก็ควรจะต้องมีข้อมูลเบื้องต้นในเรื่องนี้อยู่บ้าง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกโครงสร้างเหล็กที่เหมาะกับสิ่งก่อสร้างของเรามากที่สุด อย่างการเปรียบเทียบระหว่างเหล็กธรรมดากับ “เหล็กชุบกัลวาไนซ์” ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร

บทความนี้เราจึงจะพามาทำความรู้จักกับเหล็กชุบกัลวาไนซ์ เพื่อเปรียบเทียบกับเหล็กธรรมดากันว่า เหล็กทั้งสองแบบมีคุณสมบัติอะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร ควรจะเลือกเหล็กชุบกัลวาไนซ์ หรือเหล็กธรรมดาดี เพื่อให้ได้มีข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้ในการนำมาเปรียบเทียบ และเลือกใช้เหล็กแต่ละแบบได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่ากับงานก่อสร้างในทุกรูปแบบมากที่สุด

เหล็กธรรมดา คือ ก่อนไปทำความรูจักกับเหล็กชุบกัลวาไนซ์ เรามาดูเหล็กธรรมดากันก่อน โดยเหล็กธรรมดาหรือที่รู้จักและเรียกกันโดยทั่วไปก็คือ เหล็กรูปพรรณ หรือ เหล็กรูปพรรณดำ เพราะเป็นเหล็กที่ผลิตขึ้นโดยการหล่อหรือการนำเหล็กมาทำการรีดเพื่อขึ้นรูปตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กกล่อง เหล็กท่อ เพื่อการนำมาใช้เป็นงานโครงสร้างต่างๆ ซึ่งตัวของเหล็กธรรมดา หรือเหล็กรูปพรรณนี้ จะไม่มีการผ่านกระบวนการจุ่มร้อน หรือการเคลือบกันสนิมแต่อย่างใด จึงทำให้เหล็กมีสีดำ ดังนั้นเหล็กธรรมดานี้ก็คือ เหล็กกล้าที่นำมาขึ้นรูปสำหรับนำไปใช้ได้เลย จึงเป็นเหล็กชนิดที่มีการนำมาใช้กันโดยทั่วไปในงานก่อสร้างที่ต้องการลดต้นทุนโครงสร้างลง เพราะเหล็กชนิดนี้มีราคาค่อนข้างถูกกว่าชนิดอื่น

คุณสมบัติเด่นของเหล็กธรรมดา: เหล็กธรรมดาจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา แต่สามารถรับน้ำหนักและแรงเสียดสีได้มาก มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถรับแรงดันลมสูงได้

ข้อจำกัดของเหล็กธรรมดา: แม้ว่าเหล็กธรรมดาจะค่อนข้างมีความแข็งแรงทนทาน แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่มีการผ่านการจุ่มร้อน หรือเคลือบ หรือชุบกัลวาไนซ์กันสนิม จึงมีโอกาสทำให้เหล็กธรรมดาเกิดสนิมได้ง่าย เมื่อต้องนำไปใช้เป็นโครงสร้างงานที่ต้องเจอกับฝนและสภาพอากาศต่างๆ จึงอาจเกิดการกัดกร่อนจากสนิมและผุได้เร็ว

รู้จัก “การชุบกัลวาไนซ์

กัลวาไนซ์ (Galvanize) คือ หนึ่งในวิธีการเคลือบผิวเหล็กด้วยสังกะสี เพื่อให้เกิดคุณสมบัติพิเศษคือ การป้องกันการเกิดสนิม ที่สามารถทำได้ด้วยกระบวนการที่หลากหลาย เช่น การเคลือบสังกะสีกัลป์วาไนซ์ด้วยไฟฟ้า การเคลือบกัลวาไนซ์ด้วยวิธีทางกล การพ่นเคลือบกัลวาไนซ์ด้วยเปลวความร้อน การทาด้วยสีฝุ่นกัลป์วาไนซ์ การเคลือบกัลวาไนซ์ด้วยเทคนิคเชอร์ราไดซ์ซิ่ง และการชุบกัลวาไนซ์ด้วยการจุ่มร้อน (Hot-Dip Galvanize)

ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และเหล็กกล้าเมื่อผ่านกระบวนการชุบกัลวาไนซ์กันสนิมแล้วก็จะเรียกว่า “เหล็กชุบกัลวาไนซ์” นั่นเอง

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ หรือ Galvanized Steel เป็นการนำเหล็กกล้ารูปพรรณต่างๆ มาผ่านกระบวนการชุบกัลวาไนซ์หรือสังกะสี เพื่อให้เกิดคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดสนิม โดยในการชุบจะใช้วิธีการชุบกัลวาไนซ์ด้วยการจุ่มร้อน หรือ “Hot-Dip Galvanized” ด้วยการนำเหล็กรูปพรรณที่ต้องการมาชุบลงในบ่อสังกะสีที่หลอมเหลวด้วยอุณหภูมิที่ประมาณ 435-455 องศาเซลเซียส เพื่อให้สังกะสีหลอมเหลวเคลือบลงบนผิวเหล็ก และการเคลือบจะทำให้สังกะสีหนาขึ้นตามระยะเวลาที่ลงจุ่มในบ่อ แต่ความหนาโดยทั่วไปตามาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 285-1200 กรัม/ตารางเมตร เพื่อให้สามารถป้องกันเนื้อเหล็กจากสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหล็กชุบกัลวาไนซ์แบบจุ่มร้อนจึงนิยมนำไปใช้ในงานโครงสร้าง งานส่วนประกอบของอาคารที่อยู่ภายนอก หรืออาคารกลางแจ้ง (Outdoor) หรือใช้กับบริเวณที่ต้องเจอกับความชื่นอยู่ตลอดเวลา เช่น โครงสร้างหลังคา สะพาน รางรถไฟ เสากลางแจ้งต่างๆ โครงคร่าวผนัง หรือรางน้ำฝน เป็นต้น

คุณสมบัติเด่นของเหล็กชุบกัลวาไนซ์

สำหรับข้อดีของเหล็กชุบกัลวาไนซ์ที่โดดเด่นที่สุด แน่นอนว่าจะทำให้สามารถป้องกันและปกป้องเนื้อเหล็กจากการเกิดสนิมได้ จึงช่วยให้เหล็กไม่เกิดการผุจากการถูกกัดกร่อนอันเกิดมาจากสนิมก่อนเวลาอันควร ป้องกันการเสื่อมสภาพไม่ว่าจะจากการโดนของเหลว หรือเกิดความชื้นกัดกร่อน ทำให้เหล็กชุบกัลวาไนซ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การชุบกัลวาไนซ์ยังสามารถทำความสะอาดพื้นผิวเหล็กได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องพึ่งพาการดูแลรักษาที่ยุ่งยาก

ข้อแตกต่างเหล็กชุบกัลวาไนซ์ เมื่อเปรียบเทียบ กับ เหล็กธรรมดา

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว แน่นอนว่าสำหรับ “เหล็กชุบกัลวาไนซ์” ถูกคิดค้นและผลิตขึ้นเพื่อให้มีคุณสมบัติเด่นในการ ช่วยป้องกันการเกิดสนิม ดังนั้นสิ่งแรกที่สังเกตความแตกต่างได้ระหว่างเหล็กชุบกัลวาไนซ์ และ เหล็กธรรมดา คือ ในเรื่องของสี เหล็กธรรมดาจะมีสีดำของเหล็กกล้าที่ผ่านการขึ้นรูปและไม่ได้มีการผ่านกรดะบวนการเคลือบกันสนิมแต่อย่างใด จึงทำให้เกิดสนิมได้ง่ายกว่าเหล็กชุบกัลวาไนซ์ แต่เหล็กธรรมดาจะสามารถรับน้ำหนักที่มากได้ดี ทนการเสียดสีและแรงดันได้ดี จึงเหมาะกับการใช้เป็นโครงสร้างรับน้ำหนักที่ต้องรับน้ำหนักเยอะ ทำให้เมื่อต้องการใช้งาน จำเป็นจะต้องเตรียมเหล็กธรรมก่อนด้วยการทาสีกันสนิม จึงอาจทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนในเรื่องของสีกันสนิมและช่างทาสีเพิ่มเติม และอาจยุ่งยาก ต้องใช้เวลาในการเตรียมโครงสร้างเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเหล็กชุบกัลวาไนซ์เมื่อผ่านการชุบแล้ว จะมีสีเทาเงินมันวาว ไม่เป็นสนิมง่าย และสามารถพร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมเหล็ก เหล็กชุบกัลวาไนซ์จึงเหมาะกับการนำไปใช้เป็นโครงสร้างภายนอก หรือการใช้ในงานท่อประปา ต่างๆ เพราะสามารถทนต่อการกัดกร่อน และไม่เป็นสนิม ในเรื่องของราคาและความคุ้มค่านั้น ก็ต้องสรุปว่า เหล็กธรรมดาจะมีราคาที่ถูกกว่าเหล็กชุบกัลวาไนซ์ แต่ก็จะต้องมีการเพิ่มงบประมาณในการทาสีกันสนิมเพิ่ม ในขณะที่เหล็กชุบกัลวาไนซ์แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบความคงทนและอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงความพร้อมใช้งาน จึงทำให้เหล็กชุบกัลวาไนซ์เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า

เหล็กชุบกัลวาไนซ์ จากโรงชุบเหล็กที่ได้มาตรฐาน

การเลือกเหล็กชุบกัลวาไนซ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้เหล็กชุบกัลวาไนซ์ที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรเลือกจากแหล่งโรงชุบเหล็กที่ได้มาตรฐาน อย่าง โรงชุบเหล็ก แสงเจริญ กัลวาไนซ์กรุ๊ป โรงชุบเหล็กกัลวาไนซ์ ที่ให้บริการด้านงานชุบกัลวาไนซ์ โดยมีระบบเตาชุบที่ใช้เทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ (ตามมาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นเตาชุบระบบปิด จึงทำให้มีกระบวนการชุบที่ปลอดภัยสูง เพราะเราคือผู้นำด้านบริการชุบกัลวาไนซ์ จึงมีบ่อชุบที่มีขนาดยาวที่สุดในไทย ที่สามารถบรรจุสังกะสีได้ถึง 450 ตัน ทำให้สามารถรองรับชิ้นงานขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

หากกำลังมองหาเหล็กชุบกัลวาไนซ์คุณภาพสูง จากบ่อชุบที่ได้มาตรฐานและทันสมัยมากที่สุด ที่แสงเจริญ กัลวาไนซ์กรุ๊ป พร้อมให้บริการรับชุบกัลวาไนซ์ ชุบ Hot-Dip Galvanized ชุบสังกะสี ชุบเคลือบผิวโลหะ แบบครบวงจร โดยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำด้านเทคนิคเพื่อให้งานออกมามีคุณภาพสูงสุดตามความต้องการของลูกค้าทุกท่าน


สนใจบริการหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร : 02-599-4115, 081-839-3049
LINE ID : @SCGgalvanize
Facebook : @Sangchareongroup